วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ไม่ได้หายไปไหน

...ไม่ได้หายไปไหน

เธออยู่ในหัวใจฉันเสมอ

แอบอุ่นอยู่ใกล้ๆหัวใจเธอ

แม้ในน้ำตาเธอที่ร้าวราน

อยู่ในความหนหลังให้ชื่นชม

อยู่แม้ในสายลมที่พรมผ่าน

อยู่ในความเจ็บร้าวยาวนาน

ที่เธอร้อยผสานเป็นเพลงลา

...ไม่เคยลืมเธอคนดี

ไม่เคยมีรักให้ใครมากไปกว่า

เก็บดอกไม้จากสายธารผ่านมา

รับรู้ความห่วงหาของคนไกล

ไม่ใช่แค่เป็นเพียงแสงเดือน

ข้างแรมที่จะลางเลือนไปได้

แต่จะเป็นแสงสว่างอยู่กลางใจ

...ไม่ได้หายไปไหนเลยคนดี

.........................................................

 +++ ถือเป็นอีกปีนึงที่ฉันพอใจ +++


บางคนถามฉันว่า...เมื่อไหร่จะไปบวช  (มองหน้า)

บางคนถามฉันว่า...บวชทำไมกิจการที่บ้านใครจะช่วยดูแล  (มองหน้า)

บางคนถามฉันว่า...เมื่อไหร่จะยอมหาแฟน  (มองหน้า)

บางคนถามฉันว่า...ตัดใจจากแฟนเก่าได้แล้วหรือ  (มองหน้า)

อยากได้ซักคนที่ไม่มีคำถาม ...แต่มานั่งเงียบๆข้างๆกัน

ฉันใช้ชีวิตไปกับความรักมา 20 ปีเต็มๆ

และเดือนนี้ก็ครบรอบ 1 ปีที่ฉันได้อยู่คนเดียวแล้ว

อนาคตไม่ได้คาดหวังอะไร

ขอแค่เดินอยู่กับปัจจุบันและมีสติเป็นเพื่อน

การจะเปลี่ยนจากคนเป็นมนุษย์ได้

คงต้องใช้ใจอย่างเดียวเท่านั้น

และคงต้องใช้ใจที่สูงเหนือธรรมชาติพอดู

บางที 1 ปีในการได้ทบทวนชีวิต

ก็ได้ข้อคิดดีๆ ที่ไม่เคยมองเห็นมันมาก่อน

จะสุขหรือทุกข์ ...แค่ยิ้มให้มันก็พอ


ปล. คิดถึงเพื่อนๆทุกคนนะคะ ^____^




วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2552

MEMORYบ้านและสวน

จดหมายถึงนางฟ้า...


...หากจะกล่าวว่าฉันมีความหลังกับงานบ้านและสวนก็คงจะไม่ผิดเท่าไหร่นัก
เพราะเมื่องาน ธ.ค.48 จัดที่ไบเทคบางนา ฉันได้คุยกับผู้หญิงคนหนึ่งเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต
ผู้หญิงคนนี้ชื่อว่า "พี่อ้อย" ฉันรู้จักเธอจากเวปแห่งหนึ่ง และคุยกันมาก่อนหน้านี้ได้ 3 ปี
พี่อ้อยเป็นคนพิเศษที่ได้ทำงานกับหนังสือแพรว + บ้านและสวน มานานพอสมควร
พี่อ้อยเป็น ญ.รักญ. ที่เปิดเผยและมีอุปนิสัยที่น่ารักมากทีเดียวกับทุกๆคนที่ได้รู้จัก
ฉันไม่เคยเจอพี่อ้อยเลยสักครั้งเดียว แม้งานปี48 ก็คิดว่าจะไปเจอ แต่แล้วก็ไม่ได้ไปจนได้
จนเวลาล่วงเลยมาถึง เม.ย.49 ฉันโทรหาและทราบว่า เธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้ว
ตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ.49 ฉันทราบภายหลังเมื่อโทรไปที่สำนักพิมพ์อัมรินทร์
ฉันไปค้นหนังสือพิมพ์เก่าซึ่งยังเก็บไว้เพื่อความแน่ใจ ดูชื่อ-นามสกุลในหน้าหนึ่ง 10 กพ.49
นั่นแหละถูกต้อง...พี่อ้อยเป็นรายแรกในอุโมงค์บางพลัดที่ถึงกับชีวิต ( บางพลัดสมชื่อ )
เหตุการณ์วันนั้นพี่อ้อยกับพ่อของแฟนเสียชีวิต แฟนพี่อ้อยสาหัสกับแม่แฟนที่บาดเจ็บพอดู
พยาบาลเล่าให้ฟังว่าก่อนตายพี่อ้อยสติดีมาก บอกพยาบาลว่าต้องโทรหาใครบ้าง
เพราะทุกคนสลบกันหมด แต่พี่อ้อยไม่งั้น (สุดยอด) ความสามารถอันนี้ได้มาจาก...
การที่พี่อ้อยนั่งสมาธิบ่อยๆ และพี่อ้อยนั้นรู้ล่วงหน้ามาก่อนแล้วว่าตัวเองจะต้องเสียชีวิต
ไม่ถึงเดือนก่อนนี้พี่อ้อยplan program ไหว้พระ 9 วัด เพื่อต่อรองกับคนที่ไม่ใช่คน(บางตน)
ยังไม่ครบ 9 วัดเลยอ่า แต่พี่อ้อยก็เตรียมตัวกลับบ้านเก่าค่อนข้างสมบูรณ์ สั่งเสียไว้เกือบทุกอย่าง...
ถ้าวันนึงไม่มีพี่อ้อยแล้วทุกคนในบ้านต้องทำไงบ้าง ...ที่ทำงานก็ฝากกุญแจโต๊ะไว้
จริงๆพี่อ้อยก็ไม่ได้อยากไป แต่ชีวิตก็ต้องแลกกันกับสิ่งที่ทำไว้เมื่อชีวิตก่อน
ฉันได้ไปพบเธอและแสดงความเคารพรักก็เพียงหน้ารูปถ่ายที่ศาลาในวัดช่วงก่อน 100 วัน
และได้มีโอกาสไปพบกับครอบครัวที่น่ารักของพี่อ้อยที่อยู่ใกล้ๆวัด ...ซึ่งหลังๆไปจนบ่อย
อิอิ...บางทีก็ไปกินนอนบ้านพี่เค้าหน้าตาเฉย ทั้งที่ไม่เคยเจอตัวจริงๆ (ทำไปได้ ทำแล้วด้วย)
หนังสืองานศพพี่เค้าก็ขำๆ ดูเหมือนสมุดFRIENDSHIP ยังไงหยั่งงั้น สนพ.อัมรินทร์ใจดีทำให้
เวลา 4 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ฉันก็ยังคงไปเที่ยวบ้านพี่อ้อยอยู่ ส่วนแฟนพี่อ้อยก็ยังเจอกัน
เพราะย้ายมาอยู่ที่เมืองทองใกล้ๆกัน หลังสุดก็ลากกันไปตั้งโรงทานที่วัดป่าภูริทัตตกันมา
นัยแทนใส่เหล็กทั้งตัว แต่ก็ยังเก่งอยู่เลยนะ ชอบขับรถเร็วเหมือนเดิม อิอิ (ไม่เข็ด) แต่safeขึ้น
แต่ไม่ต้องห่วงนะพี่ เพื่อนๆยังช่วยดูแลกันอยู่ นัยแทนมีคนดูแลใหม่แล้วตามประสามนุษย์
มาเดินเล่นงานบ้านและสวนแฟร์ ปีนี้ก็เพื่อมาระลึกถึงพี่น่ะแหละ ถึงพี่จะหนีไปแล้วก็ตาม ไม่ว่ากัน
ก็ขอให้พี่มีความสุขนะ อาทิตย์นี้จะไปสร้างความบันเทิงที่บ้านพี่...ให้พ่อแม่พี่มีความสุข 1 วัน
โปรดรับทราบด้วย ง่า...แต่ไม่ต้องตอบก็ได้นะคะพี่ ป๊อปเกรงใจ รึเอาแค่เสียงไม่เอาภาพก็ได้ อิอิ


ปล. เพราะฝนที่ตกทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้ ยังอยากได้ยินทุกเรื่องราว
เธอลำบากอะไรไหม เธอสู้ไหวหรือปล่าว อย่าลืมเล่าสู่กันฟัง





+++ ข้อคิดวันนี้ +++
รักใครให้รีบบอก ...อยากเจอใครให้รีบเจอ ...อยากทำอะไรให้รีบทำ
ชีวิตคนไม่ได้ยืนยาว ในโลกนี้ไม่เคยมีอะไรแน่นอน
อย่าเอาชีวิตป๊อปเป็นตัวอย่าง อิอิ

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Inside...คุณ Monkey

... อันเนื่องมาจากคำถามของคุณลิงค่ะ??? ^__^              









วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552

BLOOM VOL.1



                 ปลายฝน...ต้นหนาว 

ช่วงนี้อากาศดีเป็นแบบความบันเทิงเริงใจของบรรดาดอกไม้ใบไม้ทั้งหลาย 

ต้นไม้ที่บ้านก็ขยันกันออกดอกให้ชื่นชม เลยมีภาพมาฝากเล็กน้อยพอให้ดูเล่น


....กระจับแคระ,กระจับแก้วหรือกระจับญี่ปุ่น ไม้ลอยน้ำ

อันนี้ชอบเป็นการส่วนตัว เพราะดูแลง่ายไม่ดื้อไม่ซน

....คุณนายตื่นสาย(สาวเชียงใหม่,แพรเซี่ยงไฮ้) ชื่อเสียงดูกันตรงการซ้อนของใบ

มีเกือบครบทุกสี บ้านไหนอยากได้มาแบ่งไปปลูกได้เลยค่ะ

....คัทลียาสีม่วง ตัวนี้จำชื่อไม่ได้แน่นอนว่าเป็น H.M.QUEEN หรือเปล่าค่ะ

แต่ออกดอกทีไร เร้าใจทุกที ดอกใหญ่มาก ได้ดูปีละ 2 ครั้งถ้าจำไม่ผิดนะคะ

....มะลิ ง่า!ได้มาจากวัด  คุณยายแม่ขาวที่่วัดป่ายกให้ เนื่องจากต้องตามธุดงค์

ไม่มีเวลาดูแล เพื่อนคนไหนอยากได้ยินดีค่ะมีอยู่ 6 กระถาง

 


....กล้วยไม้ส่วนใหญ่ ประเภทหวายหรือเอื้องมักได้มาจากฟาร์มเจ้าพระยาออร์คิด

ซึ่งเป็นเนอร์เซอรี่กล้วยไม้ส่งออก ตั้งอยู่ใกล้ๆกับที่ทำงาน

ล่าสุด (ซัก  4 ปีที่แล้ว) มีกล้วยไม้หอม  ก็หอมจริงๆค่ะ แค่เดินผ่าน

ราคาก็ตกที่ 300.- UP  ต้องปลูกเป็นกอใหญ่ถึงจะสวย


....ลูกปัดออสเตรเลีย(Coral Berry / Red)น้องคนสุดท้อง เป็นดาราหน้ากล้องของเรา

ได้มาจากร้านดอยคำ ในสนามบินดอนเมือง  ได้มาเกือบปีแล้วตอนนี้ถึงช่วงเวลาออกผล

ตัวจริงเค้าสวยมาก เหมือนลูกปัดแดงๆ ห้อยระย้ารอบๆต้น ปีนึงออก 1 หน

ชาวญี่ปุ่นถือว่าเป็นไม้มงคล นิยมให้กันตอนปีใหม่ นัยว่าแดงเหมือนพระอาทิตย์

ตอนนี้เพาะกล้าไว้ประมาณ 25 ต้นสูง 5 ซม.เพื่อนๆคนใดสนใจ ขอได้หลังไมค์ค่ะ อิอิ

จริงๆ ยังมีไม้ดอกไม้ประดับอื่นๆ อีกเยอะ ฯ อย่างเช่น ฟิโลเดนดรอน ,ลิปซาลิส

ไฮเดรนเยีย, เกลดิโอลัส, โฮย่า, นมตำเลีย, ปริกหางกระรอก,ลิปสติก, เฟริน, มอส

ว่านไก่แดง,ว่านนางคุ้ม, ว่านมหาโชค,ว่านมหาลาภ,ว่านรางเงิน,รางทอง

ว่านพญาไร้ใบ, หลิวไต้หวัน,เศรษฐีเรือนนอก...........ฯลฯ




^___"  เล่าจนเหนื่อย    ไปช่วยปลูกต้นไม้กันเถอะนะคะ

โลกใบนี้จะได้รื่นรมย์กลมๆ กลิ้งๆไปอีกนาน















                                                 

วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2552

I ... BELIEVE I CAN FLY



^________^   ครบแล้วค่ะ คืนวันอังคารที่ 13 ต.ค.นี้

เป็นคืนที่ 100 ที่ตั้งสัจจอธิษฐานไว้ต่อจากออกพรรษา

ว่าจะทำวัตรเย็นและสวดพระคาถาอิติปิโส 108 จบ ให้ได้ครบ 100 วัน

ขอให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และกัลยาณมิตรทุกๆท่านในBlog Spot

ได้ส่งใจมาร่วมสวดมนต์และตั้งจิตร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันนะคะ...

ขอให้ความดีที่ท่านได้ทำ...จงเป็นบุญที่รักษาทุกๆท่านค่ะ



ปุญญัสสิทานิ กะตัสสะ ยานัญญานิ กะตานิ เม
เตสัญจะ ภาคิโน โหนตุ สัตตานันตาปปะมาณะกา

เย ปิยา คุณะวันตา จะ     มัยหัง มาตาปิตาทะโย
ทิฏฐา เม จาปยะทิฏฐิ วา       

อัญเญ มัชฌัตตะเวริโน สัตตา ติฏฐันติ โลกัสมิง

เต ภุมมา จะตุโยนิกา       ปัญเจกะจะตุโวการา
สังสะรันตา ภะวาภะเว      ญาตัง เย ปัตติทานัมเม

อะนุโมทันตุ เต สะยัง        เย จิมัง นัปปะชานันติ
เทวา เตสัง นิเวทะยุง

มะยา ทินนานะ ปุญญานัง อะนุโมทะนะ เหตุนา
สัพเพ สัตตา สะทา โหนตุ อะเวรา สุขะชีวิโน

เขมัปปะทัญจะ ปัปโปนตุ    เตสาสา สิชฌะตัง สุภา



ขอสัตว์ทั้งหลาย ไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณ
จงมีส่วนแห่งบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำในบัดนี้
แลแห่งบุญทั้งหลายอื่นที่ข้าพเจ้าได้ทำแล้ว

คือชนเหล่าใดเป็นที่รัก ผู้มีคุณ
มีมารดาและบิดาของข้าพเจ้าเป็นต้น
ที่ข้าพเจ้าได้เห็นหรือแม้ไม่ได้เห็น
แลสัตว์ทั้งหลายอื่นที่เป็นกลาง แลมีเวรกันตั้งอยู่ในโลก

เกิดในภูมิ ๓ เกิดในกำเนิด ๔
มีขันธ์ ๕ แลขันธ์ ๑ แลขันธ์ ๔ ท่องเที่ยวอยู่ในภพน้อย แลภพใหญ่
สัตว์เหล่าใดทราบการให้ส่วนบุญของข้าพเจ้าแล้ว 
ขอสัตว์เหล่านั้นจงอนุโมทนาเองเถิด

ก็สัตว์เหล่าใดย่อมไม่ทราบการให้ส่วนบุญของข้าพเจ้านี้
ขอเทพทั้งหลายพึงแจ้งแก่สัตว์เหล่านั้น

เพราะเหตุคืออนุโมทนาบุญทั้งหลายที่ข้าพเจ้าให้แล้ว
ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงอย่ามีเวร อยู่เป็นสุขเสมอเถิด

แลจงถึงทางอันเกษมเถิด
ขอความหวังอันดีของสัตว์เหล่านั้น  จงสำเร็จเทอญ

.....................................................................................

สัพเต สัตตา สะทา โหนตุ อะเวรา สุขะชีวิโน.
ขอให้สัตว์ทั้งหลายอย่าได้มีเวรแก่กันและกัน
จงเป็นผู้ดำรงชีพอยู่เป็นสุขทุกเมื่อเทอญ.

กะตัง ปุญญะผะลัง มัยหัง สัพเพ ภาคี ภะวันตุ เต.
ขอให้สัตว์ทั้งหลายจงได้เสวยผลบุญ
ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญด้วยกาย วาจา ใจ แล้วนั้นเทอญ.
.....................................................................................


+ + +  ปัตตานุโมทนามัย = บุญสำเร็จได้ด้วยการอนุโมทนาบุญ + + +

วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2552

NOTE PAD1

อ่านแล้วมีความสุข!



เลขา: ‘ ท่าน คะ…มีคนจะขอเรียนสายท่านค่ะ’

ผู้จัดการ: ‘ ใครครับ’

เลขา: ‘ เขาบอกว่าชื่อ ความรัก ค่ะ’

ผู้จัดการ: ‘ อืมม.. บอก เค้าว่าผมงานยุ่งมาก’

……… เวลาผ่านไป……

เลขา: ‘ ท่านค่ะ ความรัก ยังงรอสายท่านอยู่ค่ะ’

ผู้จัดการ: ‘ อือ…บอกไปว่า ผมไม่สะดวกรับสายนะ’

………. ผ่านไป……….

เลขา: ‘ ท่านคะ’

ผู้จัดการ: ‘ คุณ…ความรัก อีกเเล้วใช่ไหมครับ บอกว่าผมงานยุ่ง ไว้ผมจะ…

เลขา: ‘ ไม่ใช่ ค่ะ! มีคนจะคุยเรื่องงานค่ะ’

…… ในวันที่หัวใจว่างว่าง ว่าง …..

mobile Phone: You have 1 new message in your mailbox

‘Please call.. Goodbye from ความรัก’

ผู้จัดการ: ‘ ช่วยต่อสายความรักให้ผมหน่อย’

เลขา: ‘ ค่ะ’ …………’

ตู้ดๆๆๆ ………. ความรักที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้

กรุณาฝากข้อความเเละหมายเลขโทรกลับค่ะ… ‘

เลขา: ‘ ติดต่อไม่ได้ ค่ะ จะให้ฝากข้อความไหมคะ’

ผู้จัดการ: ‘ ไม่ต้องครับ’

ความเหงา เข้ามาเยือน… แล้วเวลาก็ผ่านไป ผ่านไป …………. ผ่าน ไป………..

‘ความรักที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้กรุณาฝากข้อ

ความเเละหมายเลขโทรกลับค่ะ’

ผู้จัดการ: ‘ ความรักครับ คือ ผม…เห็นคุณเงียบหายไปไม่รู้ว่าสบายดีไหม

ช่วงก่อนหน้านี้ผมงานยุ่งตลอดไม่มีเวลาว่างต้องขอโทษ

ด้วย ไม่รู้ว่าจะสายไปไหมถ้าจะบอกว่าผมพร้อมที่จะมีความรักเเล้ว

ถ้าได้รับข้อความเเล้วช่วยติดต่อกลับด้วยนะ ครับ’

ร อ ร อ ร อ รอคอยความรักจนถึงวันนึง…..

เลขา: ‘ ท่านค่ะ ความรักโทรมา ให้ปฏิเสธไปเลยไหม คะ ?’

ผู้จัดการ: ‘ ไม่ต้อง รีบโอนสายมาเลย’

ผู้จัดการ: ‘ สวัสดีครับความรัก คุณหายไปไหนมา ขอโทษ

ด้วยนะครับ ผมไม่มีเวลาใส่ใจ ไม่เคยสนใจตลอดเวลาที่ผ่านมา

ผมไม่คิดว่าคุณจะเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับชีวิตผม ผมขอโทษ…’

ความรัก: ‘ ดิฉัน ไม่ได้โกรธอะไรหรอกค่ะ ไม่ว่าจะอย่างไร

ความรักอย่างดิฉันก็มีหน้าที่ให้ความรักเสมอ

เมื่อใดก็ตาม ที่คุณเปิดใจต้อนรับ

เมื่อนั้น คุณก็จะได้เป็นเจ้าของความรัก เเต่ที่ผ่านมาไม่

ได้ติดต่อก็เพียงเพราะว่าฉันไม่ได้จ่ายค่าโทรศัพท์ค่ะ!



ปล.  เงิน มีค่าเสมอเเม้กับความรัก เเต่อย่าให้ถึงขนาดว่า ความรัก ซื้อ ได้ด้วยเงิน...


( CREDIT FOR MUSIC JEED.COM )

วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2552

หนึ่งพรรษา



                            +++ เป็น1 พรรษาที่แสนวิเศษที่สุดในชีวิต +++

           ถ้านับจริงๆ 89 วัน สำหรับการบวชใจเพื่อใครบางคน ...ที่ไม่มีโอกาสได้รับรู้ถึงการกระทำของฉัน

 แต่บังเอิญเหลือเกินที่เธอได้ไปเปิดอ่านบันทึกในอีเมล์เก่า...อันนั้น ที่ฉันถ่ายทอดเรื่องราวที่อยากขอโทษ

 กับขออโหสิกรรมจากเธอ  และในที่สุดเธอก็ประเสริฐกว่า เพราะเธอเลือกที่จะ...ให้อภัยทานแก่ฉัน

ขอบคุณ...สายลมคนดี  อานิสงฆ์ใหญ่ครั้งนี้เป็นของคุณ หากคุณจะมีญาณวิถีรับรู้ได้ด้วยใจทางใด

ทางหนึ่ง ก็ขอให้อธิษฐานจิตเอาเองเถิดนะคะ  และขออวยพรให้รักครั้งใหม่ของคุณสวยงามเสมอไป.




วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2552

คนเปิดกรรม // IN MY ARM

" กรรม " แปลว่า การกระทำ           
  หรือ  กริยา =  ปฏิกริยา และนั่นก็คือ  ACTION = REACTION ผู้ชายคนนี้เคยบอกฉันว่า.....

ชีวิตฉันจะต้องเป็นยังไงในอนาคต ???  หน้าตากรรมของฉันเป็นแบบนี้ ???  ฉันฟังแล้วก็ยังไม่เข้าใจ

เรื่องในอดีต...เรื่องในชีวิตที่แล้ว ( ชาติก่อน ) แต่...พอไปกรรมฐาน 555  ก็เลยย้อนถามคุณหม่อมว่า...

คุณยังบอกฉันไม่หมดนี่นา ( ง่า...ไม่เป็นไรฉันไปรู้เองแล้ว )  นึกไปนึกมา...ก็สำนึกได้ว่า คงไม่มีใคร

อยากทำร้ายคนที่รักเรา  แต่ทว่าเมื่อเราลงมือทำไปแล้ว ใครล่ะ...จะเป็นผู้แก้

      
         ก่อนเข้าพรรษาฉันอ่านหนังสือเล่มหนึ่งของพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโกเรื่อง วาสนาสร้างเองได้

และอีกเล่มหนึ่งคือ เรื่อง  อธิวาสนา ของหลวงปู่ชา สุภัทโท ทำให้ฉันรู้สึกเสียดายกับวันเวลาที่ตัวเองได้

ทำมันหล่นหายไป  แบบ(ไม่)ตั้งใจ ...ในเรื่องของความรัก  คำพูดของคุณหม่อม  ทำให้ฉันอยากก้าวข้าม

วาระกรรมของตัวเองเป็นที่สุด  ค่ะ...และนี่คือที่มาของการเขียนบล็อคของฉัน เริ่มจากวันที่ 8 เดือน 8 ปีนี้


เมื่อก่อนหน้านี้ฉันเคยมีคุณสายลมที่แสนดีเป็นคนรักเมื่อหลายปีก่อน แต่ฉันก็เป็นแค่พระจันทร์ดวงหนึ่งที่

มีความอ่อนไหว  พร้อมจะเป็นข้างขึ้นข้างแรมได้เสมอ  และพระจันทร์อย่างฉันก็ทำให้สายลมที่แสนดี

ต้องเสียใจถึง 2 ครั้ง 2 ครา   จนกระทั่งถึงวันหนึ่งที่ฉันต้องเดินคนเดียวอีกครั้ง   เวลาร่วม 3 ปีที่ไม่ได้

พบกัน ฉันก็รับรู้ว่าสายลมน้อยๆ ก็กลายไปเป็นพายุลูกใหญ่ๆได้เหมือนกัน ...ฉันเองก็รู้สึกสำนึกผิดอยู่

ในใจ    ....และ อยากจะทำอะไรเพื่อขออโหสิกรรมกับคุณสายลมซะที  


      
         ฉันตัดสินใจมาเจริญกรรมฐานทำวัตรเช้า-เย็นที่วัดป่าแห่งนี้ตลอดพรรษา ให้ครบ 88 วัน ตั้งแต่ 

7 กรกฎาคม เพื่อหวังว่าวันหนึ่งพายุในใจของสายลมน้อยจะหายไป  ฉันแอบส่งข้อความไปยังเมล์

ของสายลมน้อยอันหนึ่ง ซึ่งนานมากและคิดว่าเธอคงไม่ได้ใช้เมล์นี้แล้ว  ผ่านไปร่วมกลางพรรษา

ฉันแปลกใจมากที่ได้รับเมล์จากเธอ  เพราะอยู่ๆเธอก็นึกอย่างไรไม่รู้ไปเปิดเมล์เก่าอันนั้นอ่าน และ

พบข้อความของฉัน (นี่มันยังไม่สิ้นพรรษาเลยนะสายลมน้อย) ...เธอบอกว่า เธอยกอโหสิกรรมให้ฉัน


จริงๆ แล้วฉันตั้งสัจจอธิษฐานปฏิบัติธรรมและแผ่เมตตาให้เธอ  88 วัน ... แต่มันได้รับผลเร็วเกินคาด


เพราะเราคุยกันแทบไม่ได้  และฉันรู้ว่าเธอก็ไม่อยากติดต่อกับฉันแล้ว  ฉันดีใจถึงการรับรู้็ของเธอ

ที่เลือกจะให้อภัยทานแก่ฉันและฉันสัญญาตั้งใจจะทำต่อไปให้ถึงออกพรรษา 4 ต.ค.นี้ 




            ฉันอยากเอาตัวเองพิสูจน์กับคำพูดของคุณหม่อม กับสิ่งที่ฉันเชื่อมั่นว่า ...วาสนาสร้างเองได้...


หากฉันจะแก้กรรมก็ต้องแก้จากจิตของฉันเอง  ฉันเลือกจะเปลี่ยนกรรมของตัวเองเพื่อเป็นตัวอย่างให้

คนอื่นได้เห็น และวันนี้ฉันก็ทำสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง   และอีกครึ่งที่เหลือที่ฉันหวังไว้ ถ้ามันสำเร็จ...ฉัน


อาจจะปิดบล็อคนี้ลง  และคุณสายลมคนดีก็คงไปมีชีวิตที่มีความสุข




           ขอให้บล็อคนี้เป็นบล็อคที่ปิดทองหลังพระของฉันที่ทำไว้ให้กับผู้หญิงแสนดีคนหนึ่ง...ซึ่งเธอคน

นั้นจะไม่มีวันรับรู้เรื่องราวของบล็อคนี้เลย       




อ้อ ...คุณหม่อมคะถ้าฉันเปลี่ยนเหตุการณ์ในอนาคตได้ 

คุณจะว่าอย่างไร........... ^________^





  



วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552

หนังผีกับผีจริง

คุณว่าผีน่ากลัวไม๊...

โดยส่วนตัว ฉันคิดว่า เขาเหล่านั้นน่าสงสารมากๆ

คืนก่อนที่ฉันจำวัดอยู่ในเจดีย์ มีแม่ชีและครอบครัวมาจากจันทบุรี

แม่ชีท่านนี้ภาวนาเก่งมาก รู้วาระจิตของคนรอบข้างว่าคิดอย่างไร

ไปสวรรค์-นรกมาแล้วตามญาณสมาบัติที่ตัวเองได้ฝึกฝนอย่างดี

แต่ทว่าท่านก็มีกรรม....ลูกสาวผีเข้ามาแล้ว 10 กว่าปีไม่สามารถช่วยได้

แม่ชีมากราบขอความช่วยเหลือจากหลวงพ่อ ซึ่งฉันก็นั่งฟังอยู่ไกลๆ

ระหว่างที่แม่ชีรอ พวกเรานั่งสมาธิกันอยู่ ฉันเห็นเด็กคนนี้แล้ว

พร้อมกับสัมผัสได้ถึงความลุกลี้ลุกลนในตัวเด็ก

ขณะนั้นเจดีย์ปิดไฟเกือบหมด เหลือไฟรี่ไว้นนิดเดียว พอเห็นแสงลางๆ

แม่ชีท่านนึงที่นั่งติดกันบอกฉันว่า...แกเห็นเงาดำๆผ่านไปผ่านมา

ฉันนั่งหัวเราะในใจ คืนนี้คงสนุก... ^__^

เมื่อหลวงพ่อท่านมานั่งสนทนากับเด็กคนที่มีวิญญานแฝงกับโยมแม่ชีและโยมพ่อ

ก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้พูดจาได้ฉะฉานและเรียบร้อย ไม่แสดงอาการใดๆ

หลวงพ่อตะโกนถามแม่ชีท่านนึงว่า เด็กคนนี้ผีเข้าเอาไงดี

แม่ชีก็เข้าไปพิจารณาตัวเด็ก ฉันเองก็ขยับไปนั่งหลังเด็กคนนี้

หลวงพ่อก็มองหน้า เหมือนจะรู้ว่าฉันอยากลองของ

แม่ชีของเด็กก็มองหน้าฉันหลายรอบมองแล้วมองอีก... ฉันก็หัวเราะ

แล้วหลวงพ่อก็เลยสั่งให้ครอบครัวนี้พากันนอนที่วัด และให้แม่ชีท่านนั้นพาเด็กไปกุฏิก่อน

ฉันลุ้นอยู่ว่าเด็กจะได้นอนกุฏิไหน พอรู้ว่านอนกับแม่ชีจิตร ฉันรู้ผีตัวนี้คงซ่าไม่ได้

เพราะแม่ชีท่านนี้เก่ง ...ส่วนแม่ชีที่พาไปส่งก็เล่าว่าพอลงจากเจดีย์ก็แปลงร่างทันที

พูดจาไม่รู้เรื่อง พูดจาไวไม่เหมือนคน แล้วก็ต่อว่าพระโน่น...นี่...นั่น จะไม่ยอมนอนวัด

ตามประสาวิญญานที่หนีมาเกิด แม่ชีท่านนี้ก็เก่งตะล่อมจนวิญญานดวงนี้ตายใจ ยอมอยู่

หลวงพ่อท่านก็ให้ธรรมะกับผีตนนี้ว่า...อยู่กับเค้าก็ช่วยเค้าเรียนหนังสือด้วยสิ

2 หัวช่วยกันคิด ดูซิเนี่ยเค้าเรียนหนังสือไม่จบก็เพราะเรา (ผีมันจะเข้าใจไม๊น๊า)

แล้วครอบครัวนี้พอฟ้าสางก็จากไป...

...ส่วนฉันมานั่งนึกถึงหนังผีที่เราดูๆกัน ก็ภูมิใจว่า...แหมได้ดูของจริงอีกแล้ว

ซึ่งก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันได้เห็น มันบ่อยจนนึกสนุกไปแล้ว แต่คงไม่เหมาะกับคนจิตอ่อน 555

จริงๆผีหรือวิญญานที่มีทุกข์ ก็เป็นพลังงานรูปแบบหนึ่ง ที่ต้องการความช่วยเหลือ

เนื่องจากเวลาที่เป็นมนุษย์ไม่ได้สะสมบุญเอาไว้ ไม่มีต้นทุนทางความดี ไม่มีพลังบวก

พอทิ้งกายหยาบจากโลกนี้ไป เลยเป็นพลังงานลบ ที่หาความสุขไม่ได้

ฉันแผ่เมตตาทุกคืน...ให้ทุกๆพลังงานทั่วทั้งอนันตจักรวาลได้รับกันไป

จะมากหรือน้อยก็ตามแต่จริตของพลังงานแต่ละดวง

ฉันหวังว่า เมื่อวันหนึ่งที่ฉันต้องกลายไปเป็นพลังงานบ้าง

ก็คงเป็นพลังงานดีๆ...ที่สร้างความสุขให้แก่คนทั่วไป

แล้วคุณล่ะคิดว่าไง...อยากเป็นพลังงานดีๆ เหมือนกันบ้างหรือปล่าวนะ.....

วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552

บ้านที่แท้จริง

...เมื่อคืนนี้ หลัง 4ทุ่ม พอทำวัตรเย็น

บวกเดินจงกลมสลับกับนั่งภาวนาเสร็จ

ฉันก็กระโดดขึ้นสตาร์ท รถจะกลับบ้าน

หลวงพ่อบุญช่วย เจ้าอาวาส ท่านลงมาจากเจดีย์

เจอฉันก็เลยถามว่า...

+++ ยังจะกลับบ้านอีกหรือโยม +++

ฉันกราบเรียนว่า...ต้องกลับไปทำงานค่ัะ

แ้ล้วท่านก็เดินจากไป ...ทิ้งปริศนาธรรมให้คิดอีกแล้ว

ฉันทำวัตรเย็นมาแล้ว 61 วันในพรรษานี้ไม่เคยขาดเลย

และเป็นคนเดียวที่ไม่นอนกุฏิ ซึ่งไม่เหมือนผู้ปฏิบัติธรรมท่านอื่นๆ

มีอยู่ 1 คืนที่ฉันถือ...เนสัชชิก รู้ตัวทั่วพร้อมตลอดเวลา

เป็นเพื่อนร่วมกับ ดร.(...........) อ.คณะพาณิชศาสตร์และการบัญชี  ธรรมศาสตร์

ซึ่ง ดร.ท่านนี้มาปฏิบัติธรรมด้วยเหตุจากความวุ่นวายในที่ทำงาน

ท่านต้องแผ่เมตตามากกว่าคนทั่วไปถึงวันละ สิบๆ รอบ

และสุดท้ายท่านก็ชนะ....อิอิอิ

ช่วงหลังๆมานี้ ฉันนอนที่วัดบ่อยขึ้น แต่อาศัยนอนในรถตัวเองซะส่วนใหญ่

รอทำวัตรเช้าตี 4 เสร็จก็กลับไปทำงาน

เมื่อมานึกทบทวนถึงคำว่า " บ้าน "

ก็ได้ปัญญาธรรมข้อนึงว่า...บ้านที่แท้จริง...

ไม่ได้อยู่ในชีวิตมนุษย์ของโลกใบนี้ และไม่ใช่ชีวิตที่มีลมหายใจนี้

เป็นเพียงชีวิตชั่วคราวเท่านั้น ที่เกิด-ดับ...เกิด-ดับ ไม่รู้จักจบ

ฉันเอง...วันนึงก็ต้องกลับบ้าน( เก่า )

แต่...ก็ตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตในบ้านชั่วคราวนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

อิอิ...แล้วคุณล่ะ ...ได้ทำบ้านชั่วคราวของคุณให้ดีหรือยัง???

จงทำบ้านของคุณให้มีความสุข...ด้วยสติปัญญาของคุณเองนะคะ

^_^

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ระบายใจ


...หลายวันก่อน

ฉันเห็นข้อความที่ฉันรอมานานแสนนาน
...

เมื่อ
เธอบอก ยกอโหสิกรรมให้ฉันแล้ว...

น้ำตามันไหลตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

ในองค์ภูริทัตตเจดีย์ สถานที่เจริญภาวนา

มิเสียที ที่ฉันอธิษฐานทุกคืนตลอดพรรษา


เธอ...เป็นสิ่งเดียวที่ฉันเสียใจที่สุดในชีวิต


และ...เธอก็ให้อภัยทาน มหาทานอันสูงสุดแห่งชีวิต


ฉันไม่รู้จะกล่าวอะไรอีก นอกเสียจาก...

การทำสัจจอธิษฐาน และสัจจกริยา

อุทิศให้เธอจนครบ 1000 วัน


เพื่อเป็นการทดแทนความดีที่เธอเคยทำให้

ชาติหน้าฉันอธิษฐานจิต...ไม่ขอรักใครอีกแล้วแม้แต่คนเดียว


...แต่ความรักที่ฉันให้เธอ จะยังคงอยู่ในรักแห่งพรหมวิหาร 4 ของชีวิตนี้

แม้ชาติหน้าฉันจะอธิษฐานขอจำใครไม่ได้

หากฉันก็ตั้งจิตปารถนาให้เธอเกิดเป็นน้องสาวของฉัน

เพื่อฉันจะได้ดูแลเธอให้ดีที่สุด เพราะไม่ได้มีโอกาสอีกแล้วในชาตินี้

และเมื่อมีผู้หญิงคนแรก นอกเสียจากมารดา

ได้ใส่บาตรให้ฉัน ...ทันทีที่ข้าวกระทบถึงก้นบาตรเมื่อใด

ขอให้ฉันทราบด้วยญาณวิถีแห่งความรู้แจ้งของตัวเอง

ว่าเป็น... เธอเท่านั้น

และพรแรกที่ฉันจะกล่าวกับเธอ คือ...ขอให้เราทั้งสองคน

ได้มีดวงตาเห็นธรรม
...ได้รู้ถึงสิ่งที่เลิศกว่าพรหมโลก

เฉกเช่นกับ กามนิต-วาสิฏฐี เช่นกัน...

ขอให้เราอย่าได้มาเกิดกันอีกเลย

ฝึกฝนจิตและไปใช้ชีวิตในพุทธภูมิตรงนั้น

ให้นิรันดร....




วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2552

วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม


เรื่องราวความรัก...ของฉัน

เมื่อนึกถึงครั้งใด ก็รู้สึกว่า...

หายใจได้อย่างเบาบางเหลือเกิน


เรา 2 คนเคยมีวันเวลามาทำความดีร่วมกัน

ณ ที่วัดป่าแห่งนี้เมื่อ 5 ปีก่อน

วันนี้...ฉันกลับมาทำความดีที่นี่อีกครั้ง

ด้วยการทำวัตรเย็น เจริญภาวนา

ตลอดพรรษาของปีนี้ ให้ครบ 88 วัน


เพื่อวันหนึ่ง ฉันเฝ้าหวังว่า....

เธอจะรับรู้ได้ด้วยญาณวิถีใดๆ

... และยกอโหสิกรรมให้ฉัน


เหตุการณ์ทุกอย่างฉันทำมันเองทั้งสิ้น

ผิดที่ฉันเอง... ไม่ใช่ใครเลย

ในวันที่ฉันสำนึกได้และบอกตัวเอง

ให้มาแก้ไขและบวชใจเสียที

ยินดีที่จะอยู่กับปัจจุบัน...เสมอ

และพร้อมกันนี้ฉันเอง

ได้เข้าใจพุทธพจน์เป็นอย่างดีอยู่ข้อนึงว่า....



...สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งใดสิ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา...


+++++ ทุกอย่างเกิดขึ้น...ตั้งอยู่...ดับไป +++++




อุทิศให้เธอ สายลม...คนดีของใจ