วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552

หนังผีกับผีจริง

คุณว่าผีน่ากลัวไม๊...

โดยส่วนตัว ฉันคิดว่า เขาเหล่านั้นน่าสงสารมากๆ

คืนก่อนที่ฉันจำวัดอยู่ในเจดีย์ มีแม่ชีและครอบครัวมาจากจันทบุรี

แม่ชีท่านนี้ภาวนาเก่งมาก รู้วาระจิตของคนรอบข้างว่าคิดอย่างไร

ไปสวรรค์-นรกมาแล้วตามญาณสมาบัติที่ตัวเองได้ฝึกฝนอย่างดี

แต่ทว่าท่านก็มีกรรม....ลูกสาวผีเข้ามาแล้ว 10 กว่าปีไม่สามารถช่วยได้

แม่ชีมากราบขอความช่วยเหลือจากหลวงพ่อ ซึ่งฉันก็นั่งฟังอยู่ไกลๆ

ระหว่างที่แม่ชีรอ พวกเรานั่งสมาธิกันอยู่ ฉันเห็นเด็กคนนี้แล้ว

พร้อมกับสัมผัสได้ถึงความลุกลี้ลุกลนในตัวเด็ก

ขณะนั้นเจดีย์ปิดไฟเกือบหมด เหลือไฟรี่ไว้นนิดเดียว พอเห็นแสงลางๆ

แม่ชีท่านนึงที่นั่งติดกันบอกฉันว่า...แกเห็นเงาดำๆผ่านไปผ่านมา

ฉันนั่งหัวเราะในใจ คืนนี้คงสนุก... ^__^

เมื่อหลวงพ่อท่านมานั่งสนทนากับเด็กคนที่มีวิญญานแฝงกับโยมแม่ชีและโยมพ่อ

ก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้พูดจาได้ฉะฉานและเรียบร้อย ไม่แสดงอาการใดๆ

หลวงพ่อตะโกนถามแม่ชีท่านนึงว่า เด็กคนนี้ผีเข้าเอาไงดี

แม่ชีก็เข้าไปพิจารณาตัวเด็ก ฉันเองก็ขยับไปนั่งหลังเด็กคนนี้

หลวงพ่อก็มองหน้า เหมือนจะรู้ว่าฉันอยากลองของ

แม่ชีของเด็กก็มองหน้าฉันหลายรอบมองแล้วมองอีก... ฉันก็หัวเราะ

แล้วหลวงพ่อก็เลยสั่งให้ครอบครัวนี้พากันนอนที่วัด และให้แม่ชีท่านนั้นพาเด็กไปกุฏิก่อน

ฉันลุ้นอยู่ว่าเด็กจะได้นอนกุฏิไหน พอรู้ว่านอนกับแม่ชีจิตร ฉันรู้ผีตัวนี้คงซ่าไม่ได้

เพราะแม่ชีท่านนี้เก่ง ...ส่วนแม่ชีที่พาไปส่งก็เล่าว่าพอลงจากเจดีย์ก็แปลงร่างทันที

พูดจาไม่รู้เรื่อง พูดจาไวไม่เหมือนคน แล้วก็ต่อว่าพระโน่น...นี่...นั่น จะไม่ยอมนอนวัด

ตามประสาวิญญานที่หนีมาเกิด แม่ชีท่านนี้ก็เก่งตะล่อมจนวิญญานดวงนี้ตายใจ ยอมอยู่

หลวงพ่อท่านก็ให้ธรรมะกับผีตนนี้ว่า...อยู่กับเค้าก็ช่วยเค้าเรียนหนังสือด้วยสิ

2 หัวช่วยกันคิด ดูซิเนี่ยเค้าเรียนหนังสือไม่จบก็เพราะเรา (ผีมันจะเข้าใจไม๊น๊า)

แล้วครอบครัวนี้พอฟ้าสางก็จากไป...

...ส่วนฉันมานั่งนึกถึงหนังผีที่เราดูๆกัน ก็ภูมิใจว่า...แหมได้ดูของจริงอีกแล้ว

ซึ่งก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันได้เห็น มันบ่อยจนนึกสนุกไปแล้ว แต่คงไม่เหมาะกับคนจิตอ่อน 555

จริงๆผีหรือวิญญานที่มีทุกข์ ก็เป็นพลังงานรูปแบบหนึ่ง ที่ต้องการความช่วยเหลือ

เนื่องจากเวลาที่เป็นมนุษย์ไม่ได้สะสมบุญเอาไว้ ไม่มีต้นทุนทางความดี ไม่มีพลังบวก

พอทิ้งกายหยาบจากโลกนี้ไป เลยเป็นพลังงานลบ ที่หาความสุขไม่ได้

ฉันแผ่เมตตาทุกคืน...ให้ทุกๆพลังงานทั่วทั้งอนันตจักรวาลได้รับกันไป

จะมากหรือน้อยก็ตามแต่จริตของพลังงานแต่ละดวง

ฉันหวังว่า เมื่อวันหนึ่งที่ฉันต้องกลายไปเป็นพลังงานบ้าง

ก็คงเป็นพลังงานดีๆ...ที่สร้างความสุขให้แก่คนทั่วไป

แล้วคุณล่ะคิดว่าไง...อยากเป็นพลังงานดีๆ เหมือนกันบ้างหรือปล่าวนะ.....

6 ความคิดเห็น:

  1. ทำไมหวังว่าตายไปจะเป็นพลังดี
    ไม่หวังว่าจะดับสูญไปเลยหรอครับ
    ...ถามด้วยความใคร่รู้ ไม่ได้เจตนาก่อกวนนะ ^^

    ตอบลบ
  2. มาตอบคอมเม้นท์คร้าบ
    ...
    กล้องทุกชนิดควรเก็บในตู้ที่ควบคุมความชื้นจ๊ะ
    เพราะความชื้นจะทำลายส่วนต่างๆของกล้องและเลนส์
    โดยเฉพาะ เลนส์ ถ้าราขึ้นเนี่ย จะมีผลต่อภาพที่ถ่าย
    รา ล้างได้แต่ก็ต้องแลกกับโค้ทเลนส์ที่เสียไป
    โค้ทเลนส์ คือสารเคมี ที่ใช้เคลือบผิวเลนส์จ้า

    ตอบลบ
  3. 555...ถามได้ดีมากเลยค่ะ

    ถ้าการดับสูญคือ ...นิพพาน ก็ยังมีพลังงานอยู่ค่ะแต่ไม่ต้องเกิดแล้ว

    ส่วนพลังงานดีก็อาศัยเกิดอยู่ได้ทั้งในโลก,สวรรค์,พรหมและอรูปพรหม

    แต่ถ้าดีที่สุดก็คือนิพพานพูนดวงฉ่ำเย็นเป็นสภาวะที่ไม่มีคำบรรยาย

    อิอิ...สักวันนึงจะต้องไปให้ได้เลยค่ะ ^__^

    ตอบลบ
  4. อึ๊ยยยย ขนลุก ขนลุก
    จิตแข็งแรงจังเลยนะคะ

    ขนาดหนังผี ยังต้องหรี่ตาดูเลยค่ะ กลัวภาพมันติดตา ^^

    ตอบลบ
  5. หนังผีดูแล้วน่ากลัวเพราะมนุษย์สร้างอ่ะค่ะ

    ส่วนสภาวะสัมผัสที่ 6 ผีสร้างเองไม่มีมายา 555

    ...เมื่อคืนอยู่วัดพอเลยเที่ยงคืนมีหมามาหอนอยู่ใกล้ๆ

    เลยบอกหมาว่า แกเห็น(...)ฝ่ายเดียวไปเองเลยนะ

    ชั้นไม่เห็นกะแกด้วยหรอก เดี๋ยวแผ่เมตตาให้ละกัน เหอๆ

    อาจจะสรุปได้ว่า วิญญาณคงมีคลื่นเสียงพลังงานเล็กแหลมมากๆ

    ที่กระทบกับโสตประสาทของหมา ทำให้ต้องหอนออกมา

    ว่าไปแล้ว...น่าทำวิจัยนะคะ อิอิ

    ตอบลบ
  6. สนับสนุนให้ทำวิจัยค่ะ...55555...จะได้รู้ว่าเค้าต้องการอะไรบ้าง เป็นอย่างไรบ้าง และจะเป็นอย่างไรต่อไปค่ะ

    ตอบลบ

WHEN U SAY NOTHING AT ALL ^_^